จุดเช็คอินฮอกไกโด Ep.3

  • จุดเช็คอินฮอกไกโด Ep.3 จุดเช็คอินฮอกไกโด Ep.3

    Starlight Travel พาเที่ยว Ep.3 แอดมินขอแนะนำจุดเช็คอิน!! บริเวณรอบนอกเมืองฮอกไกโด ถือว่าเป็นสถานที่ที่พลาดไม่ได้เช่นกัน!!

    1.Otaru 


    หลายๆคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โอตารุ เป็นเมืองท่าเล็กๆ บนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นในฮอกไกโด ตั้งอยู่ติดกับเมืองซัปโปโรในทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้สะดวกด้วยรถไฟด่วนจากใจกลางเมืองซัปโปโรโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
    ในอดีตคลองโอตารุถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1923 โดยที่แห่งนี้นับเป็นจุดศูนย์กลางของท่าเรือเมืองโอตารุ ซึ่งจะมีการขนถ่ายสินค้าจากเรือลำใหญ่ ไปลงเรือลำเล็ก แต่ต่อมาท่าเรือได้พัฒนามากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องขนส่งสินค้าผ่านทางคลองโอตารุอีกต่อไป คลองแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้างไว้จนกระทั่งได้รับการบูรณะในช่วงปี ค.ศ. 1980 ให้มีความสวยงาม กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง จนกระทั่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างในปัจจุบันนี้เอง ภายในเมืองโอตารุมีอาคารและโกดังเก่าแก่ในสไตล์ตะวันตกแบบวิคตอเรียนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่หลายแห่ง ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนมาท่องเที่ยวยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณเลียบคลองโอตารุ (Otaru Canal)ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมือง ที่สามารถมาเยี่ยมชมได้ทั้งหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมอย่างสวยงาม และในฤดูอื่นๆ ตลอดทั้งปี

    และในช่วงหน้าช่วงเดือนกุมภาพันธ์หนาวแถวริมคลองโอตารุได้มีการจัดเทศกาลแสงไฟ ซึ่งถือว่าเทศกาลที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ เทศกาลหนึ่ง และเวลาใกล้เคียงกับช่วงเวลาการจัดเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร โดยภายในเมืองจะแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่หลักก็คือ Unga Kaijo และ Temiyasen Kaijo ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินถึงกันได้ในระยะเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น โดยจะเปิดไฟตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจวบเวลาประมาณ 22:30 น. บนถนนยาว 300 เมตรของริมคลองโอตารุ
    และอีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวที่โอตารุห้ามพลาดที่จะไป พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณคลองโอตารุ ตัวอาคารหลักเป็นอาคารสไตล์ตะวันตก 3 ชัันที่สร้างจากอิฐ มีอายุกว่า 100 ปี ด้านหน้าของอาคารมีนาฬิกาไอน้ำจากเมืองแวนคูเวอร์ตั้งอยู่ ซึ่งจะพ่นไอน้ำทุกชั่วโมงและมีเสียงดนตรีดังทุก 15 นาที ส่วนภายในอาคารมีทั้งโซนจำหน่ายกล่องดนตรีและของที่ระลึกต่างๆ  

    ที่ตั้ง : 5 Minatomachi, Otaru, Hokkaido 047-0007, Japan
    วิธีการเดินทาง :ขึ้นรถไฟ JR จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ไปลงยังสถานีโอตารุ (Otaru Station) โดยใช้เวลาการเดินทางเพียง 30 นาที

    2.ทะเลสาบชิโกะสึ Lake Shikotsu

    ทะเลสาบชิโกสึถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในเรื่องของความใสสะอาด และยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกป่าตามธรรมชาติ สภาพแวดล้อมรายล้อมไปด้วยภูเขาอันสวยงาม และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งทำกิจกรรมยอดนิยม และสามารถเข้าร่วมอย่างเพลิดเพลิน ในช่วงฤดูหนาวเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีงานงานเทศกาลน้ำแข็งแห่งทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu ice festival) ซึ่งทำให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมารวมตัวกันเพื่อดูประติมากรรมน้ำแข็งสุดอลังการ

    ที่ตั้ง: Shikotsuko Onsen, Chitose City, Hokkaido
    การเดินทาง :Hokkaido Chuo Bus มุ่งหน้าไปยัง “Shikotsuko” (支笏湖) จากสถานี Chitose ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และจากสถานี Minami Chitose  ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
    Website ((Lake Shikotsu ice festival) : https://hyoutou-special.asia/#event

    3.Ningle terrace

    นิงเกิ้ลเทอเรส หรือที่เรียกกันติดปากว่าหมู่บ้านเทพนิยาย เป็นหมู่บ้านงานฝีมือที่ตัวบ้านเป็นกระท่อมไม้เล็กๆ ตั้งเรียงรายอยู่ท่ามกลางป่าใหญ่ เหมือนดินแดนในเทพนิยาย บ้านแต่ละหลังมีทั้งร้านคาเฟ่ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านขายสินค้าแฮนด์เมดและงานศิลปะ ต่างๆฯลฯ บรรยากาศบริเวณโดยรอบดูอบอุ่น น่ารัก และในฤดูหนาวจะมีหิมะหนาๆ บนหลังคา ทางเดิน และการประดับไฟสวยๆ เหมือนอยู่ในเทพนิยาย
    ที่ตั้ง :  Nakagoryo, Furano, Hokkaido 076-8511, Japan
    เวลาทำการ: 12.00 น. – 20.45 น. / เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เปิดเวลา 10.00 น. – 20.45 น.
    ค่าบริการ : -
    การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Furano นั่งรถบัส The Lavender-Go ไปลงที่ New Furano Prince Hotel

    4.สวนสัตว์อะซาฮิกาว่า - Asahiyama Zoo

    เป็นสวนสัตว์ชื่อดังติดอับดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองอะซาฮิกาว่า ที่สวนสัตว์แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางแถบรอบนอกของเมืองอะซาฮิกาว่า และเป็นสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น โดยสวนสัตว์แห่งนี้มีสัตว์ต่างๆ มากกว่า 700 ชนิด จาก 124 สายพันธุ์  จุดเด่นของที่นี่คือการออกแบบ “กรงสัตว์” ให้มีความแตกต่างจากสวนสัตว์ที่อื่นๆ คือให้พื้นที่มีลักษณะโล่ง โปร่ง และกว้าง  โดยเน้นการออกแบบให้เหมือนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติเดิม และนอกจากนี้ยังมีในส่วนของสวนสัตว์น้ำที่เน้นการออกแบบคล้ายอุโมงค์ มีการตกแต่งด้วยกระจกใสบานใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดเพื่อชมวิธีชีวิตและการแสดงของเหล่าสัตว์น้ำได้ และที่ไฮไลท์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นความน่ารักของเหล่าแพนกวินเดินพาเหรด ให้นักท่องเที่ยวได้ชมพร้อมเก็บภาพความน่ารักๆกัน ละนอกจากพาเหรดแพนกวินแล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ทางผู้ดูแลสวนสัตว์ได้จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้รับชมกันอีกมากหมาย
    ที่ตั้ง : Kuranuma Higashi asahikawacho, Asahikawa, Hokkaido 078-8205
    การเดินทาง : โดยสารรถประจำทางหมายเลข 41,42 หรือ 47 ไปลงที่ Asahiyama Zoo (รถบัสออกชั่วโมงละ 2 เที่ยว)
    เวลาทำการ :
    • ปลายเดือนเมษายน - กลางเดือนตุลาคม 09.30น. – 17.15น. (เข้าก่อน16.00น.)
    • กลางเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน 09.30 น. – 16.30น. (เข้าก่อน16.0น.)
    • กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนเมษายน 10.30น. –15.30น. (เข้าก่อน15.0น.)
    ค่าบริการ : 1000 เยน (ตรวจสอบรายละเอียดที่เวปไซด์อีกครั้ง)
    Website : https://www.city.asahikawa.hokkaido.jp/asahiyamazoo/

    5.Biei - Seven Stars Tree  , Ken & Mary tree


    จุดเช็คอินและชมวิวสวยๆที่เมืองบิเอะ และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองบิเอะคือ ต้นเคน และแมรี่ (Ken & Mary Tree) ต้นเซเว่นสตาร์ส (Seven Stars Tree)  ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ เนินเขาไมลด์เซเว่น (Mild Seven Hill) และ หอชมวิวโฮกุเซ (Hokusei Hill Observatory) อาคารทรงพิระมิดที่สามารถขึ้น ไปชมวิวเมืองได้แบบรอบทิศทาง โดยเฉพาะตอนช่วงหน้าหนาวที่มีหิมะตกปกคลุมทั่วพื้นที่ยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสวยขึ้นเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นและเช่ารถขับเองถ้าไม่ไปถือว่าพลาดมาก
     
    ที่ตั้ง : Biei, Kamikawa District, Hokkaido 071-0224
    Website : https://www.biei-hokkaido.jp/en/

    • Admin
    • ศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567
    • 1 Views